สฤณี, ยิ่งชีพ และวิญญู เตรียมยื่นฟ้อง กองทัพบก สล็อตแตกง่ายเพื่อขอให้ศาลปกครองสั่งยุติปฏิบัติการข้อมูลข่าวสาร (IO) ที่ไม่ถูกต้อง ยิ่งชีพ อัชฌานนท์ ผู้จัดการ iLaw เผยแพร่ข้อความผ่าน Facebook ส่วนตัว ระบุว่า ตามที่มีหลักฐานปรากฏ ทั้งจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลสองครั้งที่ผ่านมา รายงานเปิดเผยเครือข่ายข้อมูลข่าวสารที่เชื่อมโยงกับรัฐของทวิตเตอร์ รายงานของมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด รวมทั้งข้อมูลที่ปรากฏบนสื่อมวลชน และเอกสารการปฏิบัติงานภายในที่ถูกนำมาเผยแพร่ จึงชัดเจนแล้วว่า กองทัพบก กำลังทำปฏิบัติการข้อมูลข่าวสาร (IO) ต่อประชาชนเพื่อหวังผลทางการเมืองภายในประเทศ
ข้อมูลที่เปิดเผยระหว่างการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล
เป็นเอกสารของทางราชการ ที่ออกโดยกองทัพภาคที่ 2 เพื่อมอบหมายการปฏิบัติให้กับเจ้าหน้าที่ทหารปฏิบัติการ ด้าน ข้อมูลจากรายงานที่เปิดเผยโดยทวิตเตอร์ ก็แสดงให้เห็นว่า บัญชีทวิตเตอร์ที่เชื่อมโยงกับกองทัพบก ถูกใช้เพื่อ “อวย” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และรัฐบาลชุดนี้อย่างโจ่งแจ้ง และโจมตีฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองอย่างหนัก ขณะที่กลุ่มภาคประชาสังคม นักศึกษา นักกิจกรรม นักวิชาการ และสื่อมวลชนก็ตกเป็นเป้าหมายของปฏิบัติการข้อมูลข่าวสารของกองทัพบกด้วยเช่นกัน
จากเอกสารที่ถูกเผยแพร่พบบัญชีทั้งเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์ของ สฤณี อาชวานันทกุล นักเขียน นักแปล, ยิ่งชีพ อัชฌานนท์ ผู้จัดการ iLaw และวิญญู วงศ์สุรวัฒน์ พิธีกรผู้จัดรายการ เป็นเป้าหมายของปฏิบัติการข้อมูลข่าวสารด้วย รายงานของทวิตเตอร์ปรากฏการตรวจพบปฏิบัติการต่อบัญชีทวิตเตอร์ของทั้งสามคนหลายครั้ง ตัวอย่างเช่น วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2563 มีข้อความไปหา @johnwinyu ว่า “กูโคตรจะเกลียดมึงเลย เป็นดาราเสือกมายุ้งเรื่องการเมือง ไอ้ขยะ”
ปฏิบัติการข้อมูลข่าวสารที่เกิดขึ้นนั้นไม่ใช่เพียงการ “ประชาสัมพันธ์งานของกองทัพบก” ตามที่กองทัพบกเคยชี้แจงต่อสาธารณะเท่านั้น แต่มีเนื้อหาและลักษณะที่ “หวังผลทางการเมือง” โดยใช้ข้อความที่ “เป็นบวก” กับนายกรัฐมนตรีที่สังกัดพรรคพลังประชารัฐ และ “เป็นลบ” ต่อพรรคการเมืองฝ่ายตรงข้าม รวมทั้งกลุ่มภาคประชาสังคม นักศึกษา นักกิจกรรม นักวิชาการ และสื่อมวลชน ที่แสดงความคิดเห็นโดยสุจริตแต่ไม่เป็นบวกกับฝ่ายการเมืองที่ถืออำนาจอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งเป็นการใช้งบประมาณและทรัพยากรของรัฐ เพื่อประโยชน์ทางการเมืองโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย และไม่ชอบธรรม
สฤณี, ยิ่งชีพ และวิญญู จึงรวบรวมหลักฐานเกี่ยวกับปฏิบัติการข้อมูลข่าวสารของกองทัพ และผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อสังคม และจะเป็นผู้ฟ้องคดีต่อศาลปกครอง โดยยื่นฟ้องกองทัพบก เป็นผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 และผู้บัญชาการกองทัพบก เป็นผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 เพื่อขอให้ศาลปกครองสั่งยุติปฏิบัติการข้อมูลข่าวสารที่ไม่ถูกต้องทั้งหมดนี้ทันที
ในขณะเดียวกันผู้ฟ้องคดีทั้งสามคนยังได้ยื่นจดหมายถึงผู้ให้บริการเฟซบุ๊ก เพื่อให้ตรวจสอบการใช้ปฏิบัติการข้อมูลข่าวสารโดยรัฐ เพื่อสร้างความรับรู้ของประชาชนที่ไม่เป็นความจริง และดำเนินการต่อการกระทำที่ละเมิดกฎของเฟซบุ๊ก รวมทั้งยื่นหนังสือและข้อมูลหลักฐานต่อผู้รายงานพิเศษของสหประชาชาติด้านเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น (UN Special Rapporteur on Freedom of Expression) เพื่อให้ตรวจสอบปฏิบัติการข้อมูลข่าวสารที่กองทัพบกไทยกระทำต่อประชาชนไปพร้อมกัน
นัดหมายยื่นฟ้องคดีและแถลงข่าว วันที่ 4 มีนาคม 2564 เวลา 13.00 ที่ศาลปกครอง ถ.แจ้งวัฒนะ
‘ประวิตร’ เสนอชื่อว่าที่ รมต. ให้นายกฯเลือก
ประวิตร ออกมาเปิดเผยว่าได้ เสนอชื่อว่าที่ รมต. ให้นายกฯ เลือก ยันมีหน้าที่เสนอชื่ออย่างเดียว ให้นายกฯเป็นคนตัดสินใจ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าในการสรรหารัฐมนตรีขึ้นมาดำรงตำแหน่งที่ว่างอยู่ หลังจากที่ นาย ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ , นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม , นายถาวร เสนเนียม รมช.คมนาคม หลุดจากตำแหน่ง หลังถูกตัดสินให้มีความผิดคดี กปปส.
โดย พล.อ.ประวิตร ระบุว่า ถึงเวลานี้ยังไม่มีลูกพรรคคนใดเสนอรายชื่อบุคคลเข้ามา และวันเดียวกันนี้จะมีการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) ก็ค่อยว่ากัน ยืนยันว่าไม่มีความกดดันใดๆ แม้จะมีข่าวว่ามีการล่ารายชื่อเพื่อมอบอำนาจให้ตนตัดสินใจก็ตาม
“ยืนยันว่าไม่มีความกดดันใดๆ พรรคเราเป็นหนึ่งเดียว ไม่มีอะไร และยืนยันอีกครั้งว่าไม่มีเรื่องของโควต้าอะไรทั้งนั้น เรื่องรายชื่อผมจะส่งให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จากนั้นนายกฯก็จะไปจัดการว่าใครจะอยู่ที่ไหน อย่างไร เท่านั้นเอง” พล.อ.ประวิตรกล่าว
เมื่อถามย้ำว่าท้ายที่สุดแล้วจะให้นายกรัฐมนตรีเป็นผู้ตัดสินใจ แม้จะเห็นไม่ตรงกันอย่างนั้นหรือ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ผมไม่ได้ส่งว่าให้ใครเป็นอะไร ส่งเพียงรายชื่ออย่างเดียว
โดยผู้สื่อข่าวถามว่าจะมีเฉพาะแค่ 3 ตำแหน่งที่ว่างอยู่ หรือจะมีการเพิ่มในส่วนอื่นอีกหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ไม่มี ไม่รู้ เรื่องสลับเก้าอี้เป็นเรื่องของพรรคที่จะคุยกันเอง การส่งรายชื่อให้กับนายกรัฐมนตรีนั้น ว่างกี่คนก็ส่งเท่านั้น ส่งแค่ 3 คน ไม่มีเผื่อ
ซึ่งผู้สื่อข่าวได้ถามย้ำว่าส่งรายชื่อให้กับนายกรัฐมนตรีแล้วหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า มันเรื่องของตน ไม่ใช่เรื่องของสื่อ เมื่อถามย้ำว่ารายชื่อทั้งหมดเรียบร้อยแล้วใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตรเอานิ้วชี้ที่ศีรษะตัวเอง พร้อมกล่าวว่า อยู่ที่หัวนี่ อยู่ในหัวนี่
ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตรปฏิเสธที่จะตอบคำถามกรณีที่มีข่าวว่าอาจจะมีการสลับเก้าอี้ และจะทำให้รัฐมนตรีช่วยว่าการขยับได้ขึ้นเป็นรัฐมนตรีว่าการสล็อตแตกง่าย